Happy valentine
เป็นหนึ่งในข้อความที่ฉันได้รับจากคนรู้จักทุกปีในช่วงวันแห่งความรัก
นอกจากข้อความบอกรักแบบอื่น สติกเกอร์รูปหัวใจ ดอกกุหลาบ ที่ทยอยส่งมาทั้งวัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พอคาดเดาได้ทุกปี
ดังนั้นฉันจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือตื่นเต้น ดีใจจนออกนอกหน้า มากกว่าการเปิดอ่าน รับรู้ แต่ไม่ตอบอะไรกลับไปยังผู้ส่ง
อาจจะดูใจร้าย อาจจะเหมือนไม่แคร์ แต่นี่แหละฉัน
ฉัน ผู้ซึ่งรู้ดีว่าข้อความจากใครคนใดบ้างที่มีความหมาย และทำให้ฉันรู้สึกพิเศษ
เมื่อรู้สึกพิเศษกับใคร ฉันจะบรรจงจัดหาของขวัญ และสรรหาข้อความส่งไปให้คนๆ นั้นอย่างเอาใจใส่
ฉันจะไม่ส่งความรู้สึกดีๆ ให้ใครพร่ำเพื่อ เพียงเพราะเป็นฝ่ายได้รับมาก่อน
‘ ก็แค่กดส่งต่อๆ กันไป ใคร ๆ เขาก็ส่งกัน ส่งๆ ไปเถอะ คิดมาก ‘
ใช่!!! คิดมาก
นั่นเป็นธรรมชาติของฉัน เพราะความรัก ความปรารถนาดี เมื่อส่งออกไปแล้วย่อมมีผลกับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ฉันเป็นพวกขี้กลัว ขี้ระแวง และขี้สงสัยในการกระทำของคนอื่น
วาเลนไทน์ปีนี้ ฉันวุ่นวายกับภารกิจประจำวัน หันกลับมาอีกที สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นข้อความจากใครคนหนึ่ง ผู้ซึ่งห่างหายไปจากชีวิตฉันเกือบสิบปี
ข้อความของเขา ทำให้ฉันได้ทบทวนถึงความสัมพันธ์ของฉันกับคนรอบข้าง
บางทีการที่เรากลับมาเจอกับใครสักคนทั้งที่ไม่ได้พบเจอกันมานานหลายปี อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
สำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องการรักษาความสัมพันธ์กับผู้คนอย่างฉัน
ข้อความมากมายทำไม ฉันจึงเลือกที่จะตอบ มันพอดีกับที่ฉันบังเอิญได้พบ ผู้หญิงเท่ ๆ คนหนึ่งผ่านตัวหนังสือของเขาจากผลงานเขียน เมื่ออ่านงานของเขาจบ ใครบางคนเท่านั้น
ช่างบังเอิญเช่นกัน ที่ฉันได้พบ ตัวอักษรของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่ง เท่มาก สำหรับฉัน จากชั้นเรียนเขียนซะป๊ะ
ทันทีที่อ่านงานเขียนของเธอจบลง
ฉันบอกตัวเองว่าอย่าเข้าได้ใกล้คนแบบนี้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว เธอไม่ได้น่ากลัวมากมายขนาดนั้น
เพียงแต่ เธอเป็นตัวของตัวเองจนฉันไม่อาจจะแตะต้องได้
ใช่ เธอเป็นตัวของตัวเองแบบที่ฉันเป็นนั่นยังไง
ฉันที่ หากใครก้าวเข้ามาในวงกลมของฉันก่อนหนึ่งก้าวฉันจะถอยหลังจากพวกเขาไปถึงสามก้าว
แม้จะบอกตนเองว่าอย่าได้เข้าใกล้คนแบบเดียวกับฉัน
แต่ก็แปลก ที่ฉันกลับเดินเข้าหาผู้หญิงเท่ ๆ คนนั้น กล้าเข้าไปสัมผัส สัมพันธ์กับเธอมากไปกว่าการรู้จักกันผ่านตัวอักษร
เธอ ทำให้ฉันต้องทบทวนความสัมพันธ์ของตนเองกับคนอื่นอีกครั้ง
นี่ฉันก้าวออกจากวงกลมของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ผู้หญิง ที่มีตัวอักษรสนเท่คนนนั้น เธอส่งหนังสือมาให้ฉันในวันแห่งความรัก
ไม่มีใครให้ของขวัญแบบนี้กับฉันมาก่อนเลย มันห้ามไม่ได้ที่ฉันจะตกหลุมรักเธอไปแล้ว…
วาเลนไทน์ปีนี้ ที่ทำงานของฉันแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน ผ่านขนมบ้าง ช็อกโกแลตบ้าง เป็นอย่างนี้ทุกปี และฉันสังเกตการตอบสนองของผู้คนในที่ทำงานฉันออกเป็น 3 รูปแบบ
หนึ่ง คนที่ได้รับและให้กลับ
อีกหนึ่ง คนที่ได้รับ แต่ไม่ให้กลับ
และอีกหนึ่ง คนที่ไม่ให้และไม่รับจากใคร
เป็นไปได้ที่คนแบบแรกไม่ได้ซาบซึ้งถึงการได้รับ อาจเพียงเพราะไม่อยากติดค้างใครเท่านั้น
แล้วคนแบบที่สองนั้นคิดอย่างไร ไม่อยากต่อยอดความสัมพันธ์ หรือว่าไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ
นั่นเป็นเพียงการแบ่งกลุ่มในสังคมเล็กๆ ของฉันเท่านั้น
แต่ในสังคมขยายที่เราเป็นสมาชิกอยู่นั้น ยังมีคนอีกหลายประเภท
เราอาจไม่เห็น ไม่สังเกตมันในสถานการณ์ปกติ แต่เราจะรู้จักกันดีขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป
ได้เห็นคนหลากหลายประเภทมากว่าที่เคยเห็น
บางคนเป็นผู้ให้ บางคนเป็นผู้รับ บางคนเป็นผู้นำที่ดี บางคนเป็นผู้ตามที่ดี หรือแม้กระทั่งเป็นผู้นำก็ไม่ได้ เป็นผู้ตามก็ไม่ดี มากมายจนจำแนกไม่ถูก
ความสัมพันธ์ที่บางเบาอาจแน่นแฟ้น
คนที่เคยหนักแน่นต่อกันอาจสั่นไหว
อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ตราบใดที่โลกยังคงหมุนไปทุกวัน
แล้วฉันล่ะ ฉันเป็นแบบไหน
ฉันตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ เมื่อจะต้องให้อะไรแก่ใคร
เขาจะชอบไหม มันจะเป็นประโยชน์กับเขาไหม เขาจะประทับใจหรือไม่
ทำไมเธอคิดมากมายนาดนั้น ฉันถามตัวเอง
เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันทุกแง่มุมก็ได้
มัวแต่คิดมากเธอจะหาความสุขได้อย่างไร
แต่ฉันจำเป็นต้องถามตัวฉัน ตั้งคำถามมันเสมอ
ให้แล้วเราสบายใจไหม?
ให้ด้วยความปรารถนาดีไหม?
ให้ในสิ่งที่ดีไหม? ดีของเรา เท่ากันกับดีของเขาไหม?
ให้ในสิ่งที่เราสามารถให้ได้ไหม ฯลฯ
“ สุขสันต์วันแห่งความรักจ้ะ “ ฉันยื่นช็อคโกแลตให้เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
“ ฉันไม่ได้เตรียมอะไรมาให้เลย “เธอตอบกลับมา
“ไม่เป็นไร ฉันอยากให้ ไม่ได้อยากแลกช็อคโกแลตกัน “
เธอส่งยิ้มหวานมาให้ นี่ไง ของขวัญจากเธอ
บางคนมักคิดว่าเราไม่มีอะไรจะให้ใคร
อย่าลืมสิว่าเรามีหนึ่งอย่างที่ไม่ต้องลงทุน อย่างน้อยที่สุดก็ “ รอยยิ้มที่จริงใจ รอยยิ้มแห่งมิตรไมตรี “
ของเรานั่นอย่างไร
ดีงามค่ะ
อ่านแล้ว…อยากรู้จักผู้หญิงเท่ ๆ คนนั้นฉับพลันทันใด
ให้เพราะอยากให้