ในยามที่ลูกเริ่มเป็นวัยรุ่น เขาจะแยกห้องนอนแล้วขังตัวเองอยู่ในโลกของตนเอง
ฉันจึงพยายามที่จะเข้าใกล้ลูกให้ได้มากที่สุด โดยที่เขาไม่รู้สึกว่าแม่ได้รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา
ฉันเชื่อในความคิดที่ว่า เมื่อเราเลี้ยงลูกอย่างเพื่อน โลกของเราแม่ลูกจะกลายเป็นโลกใบเดียวกัน
ฉันมักจะนึกย้อนความทรงจำกลับไปในวันที่ตนเองเป็นวัยรุ่น และคิดกลับในมุมมองลูกเพื่อทำความเข้าใจ และอยากให้ลูกมีความสุขในโลกของลูก โดยที่ไม่ลืมว่ามีแม่อยู่ข้างๆ เสมอ
ตอนลูกสาวคนโตเป็นวัยรุ่น ฉันห่วงเรื่องความปลอดภัยของหญิงสาวที่อาจมีอันตรายหรือความผิดพลาดจากความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ เพราะลูกสาวเรียนโรงเรียนสหศึกษา ต่างจากฉันสมัยวัยรุ่นที่เรียนโรงเรียนหญิงล้วน
เมื่อนึกย้อนกลับไปในตอนนั้น ช่วงมัธยมปลาย แม้สภาพแวดล้อมในโรงเรียนหญิงล้วนจะช่วยลดความเสี่ยงไปได้บ้าง แต่เพราะอารมณ์อันอ่อนไหวของวัยรุ่น ทำให้เพศตรงข้ามเป็นที่ดึงดูดใจเป็นธรรมดาของธรรมชาติวัยนั้น
ฉันในวันนั้นเริ่มมีความสนใจเพื่อนต่างเพศ และเฮโลไปกับกลุ่มเพื่อนสนิทที่ชวนเที่ยวหลังโรงเรียนเลิก ไปดูคอนเสิร์ต และสุดท้ายติดนักร้องถึงขนาดตามไปถึงห้องซ้อมดนตรีหลังเลิกเรียน
ความแปลกใหม่สนุกสนานในหมู่ชายหนุ่มที่ตนเองสนใจนั้นสร้างโลกใบใหม่ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจให้หลงใหลไปกับแสงสี เสียงเพลง และความสัมพันธ์ใหม่ๆ
โชคดีที่กลุ่มนักร้องกลุ่มนั้นเป็นชายหนุ่มที่นิสัยดี ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ประกอบกับเมื่อเวลาผ่านไป เข้าปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย ความสนใจของฉันและเพื่อนๆ ก็เปลี่ยนไปที่การเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามเป้าหมายชีวิตที่วางไว้
เมื่อฉันกลับมานึกถึงลูกในวัยเดียวกันนั้น ฉันได้เล่าชีวิตวัยรุ่นของแม่ให้ลูกฟัง
แต่เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ลูกสนใจไอดอลเกาหลีที่นานทีปีหนจะมาเปิดคอนเสิร์ต จึงไม่มีอะไรน่าห่วง
ฉันจึงตามใจลูก เมื่อลูกขอเงินไปดูคอนเสิร์ต
แต่เรื่องเพื่อนต่างเพศที่โรงเรียน ฉันก็แอบถามลูกอยู่เหมือนกัน แล้วก็เล่าชีวิตรักของแม่ให้ลูกฟัง
เล่าไปสอนไปแบบเนียนๆ ว่าเวลาชายหนุ่มดีๆ ที่มาสนิทสนมเป็นเพื่อนด้วยนั้นเป็นอย่างไร ต่างจากความสัมพันธ์ที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างไร
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูก ทำให้เราคุยกันเหมือนเพื่อน ลูกก็จะเปิดใจเล่าเรื่องหนุ่มที่เขาสนใจให้แม่ฟัง แม่ก็ขอดูรูปถ่ายเพื่อทำความรู้จัก และสอบถามนิสัยใจคอ ตามสังเกตพฤติกรรมลูกอยู่ห่างๆ แต่เกาะติดแบบไม่ให้ลูกรู้ตัว
ลูกสาวฉันตอนนี้เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เริ่มทำงานประจำแล้ว ฉันก็สอนถึงชีวิตการทำงาน และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ลูกจะได้พบเจอ พร้อมเล่ากรณีตัวอย่างที่แม่พบเจอมาให้ลูกรู้จักและทำความเข้าใจ
ทุกวันนี้ฉันค่อนข้างวางใจว่าลูกจะสามารถดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะในชีวิตจริงของคนเรา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉันจึงสำทับลูกอยู่เสมอว่า แม่กับพ่ออายุมากขึ้นทุกวัน ลูกต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่และใช้ชีวิตอย่างฉลาด ไม่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงๆ และไม่เห็นแก่อารมณ์สนุกสนานจนเกินพอดี ถึงขั้นละเลยความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง
ฉันรับรู้ว่าในอนาคต สักวันหนึ่งลูกก็ต้องมีชีวิตของลูก ที่จะต้องดูแลตนเองได้ อยู่ให้ได้อย่างดีในวันที่พ่อและแม่จากไป
การเตรียมตัวเตรียมใจและสอนลูกเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนทำเหมือนกันทั้งนั้น แต่ลูกจะรับรู้ รับฟัง และเข้าใจถึงความปรารถนาดีของพ่อแม่มากน้อยเพียงไหนนั้น ฉันไม่อาจให้คำตอบได้ในวันนี้ เพราะสิ่งที่ยังไม่เกิด ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น วันนี้จึงทำได้เพียงแต่รอดู ต่อไปเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุดในทุกชีวิต ณ วันเวลาหนึ่งในวันข้างหน้า
โลกที่แม่ลูกอยู่ร่วมกันในวันนี้ สุดท้ายก็ต้องแยกจากกันด้วยความตายตามกฎธรรมชาติอยู่ดี ไม่มีใครหนีพ้น
ในวันที่ยังอยู่ในโลกใบเดียวกัน ฉันอยากเห็นโลกใบนั้นสวยงาม สดใส เติมเต็มด้วยความรัก ความห่วงใยอาทรซึ่งกันและกัน เป็นโลกที่ในวันข้างหน้าเมื่อแม่ไม่อยู่แล้ว และลูกได้หันกลับมามอง ลูกจะคิดถึงความสุขและสัมผัสได้ถึงรักของแม่อย่างไม่รู้เลือน
น่ารักจัง